ภาษีและ VAT สำหรับผู้ขาย Shopee Lazada TikTok

เรื่องภาษี และ VAT เป็นเรื่องที่ผู้ขายของออนไลน์อย่างเราต้องรู้ เพราะ กรมสรรพากรได้ออกกฎบังคับให้แพลตฟอร์ม e-commerce อย่าง Shopee, Lazada, TikTok ส่งข้อมูลยอดขายของผู้ขายให้ทุก ๆ ปี
ฉนั้น หากผู้ขายออนไลน์อย่างเราไม่ทำการยื่นภาษีให้ถูกต้องก็จะมีความเสี่ยงที่จะโดนค่าปรับย้อนหลัง
บทความนี้จะช่วยคุณเข้าใจว่า
- ภาษีที่เกี่ยวข้องกับผู้ขายออนไลน์มีอะไรบ้าง ?
- เกณฑ์ยอดขายเท่าไหร่ที่ต้องทำการจด VAT
- และจะแก้ปัญหาให้ไม่เสียเวลาในการคำนวณยอดยื่น VAT ได้อย่างไร
ทำไมผู้ขายออนไลน์ต้องรู้เรื่องภาษี ?
พ่อค้าแม่ค้าหลายคนอาจไม่ได้เห็นความสำคัญของเรื่องนี้ แต่ว่า ตั้งแต่ 1 มกราคม 2567 กรมสรรพากรได้ออกกฎให้แพลตฟอร์ม E-commerce เช่น Shopee, Lazada, TikTok, Line และอื่นๆ ต้องส่งข้อมูลยอดขายของผู้ขายให้กับกรมสรรพากร ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อผู้ขาย e-commerce อย่างเรา
นั่นหมายความว่า สรรพากรมีสิทธิ์ที่จะตรวจเจอหากเราขายของออนไลน์และไม่ได้ทำเรื่องยื่นชำระภาษีให้ถูกต้อง และอาจทำให้เราต้องชำระภาษีย้อนหลังและอาจต้องเสียค่าปรับ ฉนั้น เรื่องนี้รู้ไว้และปฎิบัติตามดีกว่าครับ เพราะโดนปรับมาจะไม่คุ้มทั้งเงินและเวลา
ต้องเสียภาษีอะไรบ้าง ?
แล้วภาษีที่เกี่ยวข้องกับผู้ขายของออนไลน์อย่างเรามีอะไรบ้าง ?
ภาษี 2 ก้อนที่เกี่ยวข้องกับผู้ขายของออนไลน์อย่างเรา ได้แก่ ภาษีบุคคลธรรมดา (หรือภาษีนิติบุคคล กรณีขายในนามบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนจำกัด) และภาษีมูลค่าเพิ่ม
- ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา / หรือภาษีเงินได้นิติบุคคล คือ ภาษีที่เราทุกคนต้องทำเรื่องยื่นทุก ๆ สิ้นปี ไม่ว่าเราจะเปิดร้านขายของในนามบุคคลธรรมดา (ใช้ชื่อเราเป็นเจ้าของร้าน) หรือขายในนามนิติบุคคล (จดทะเบียนบริษัท และขายในนามบริษัท) เราก็จะต้องทำการยื่นภาษีส่วนนี้ แม้ว่าการคำนวณภาษีของบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลต่างกัน แต่ที่เหมือนกันก็คือภาษีก้อนนี้เป็นภาษีที่ทุกคนต้องยื่นทุก ๆ สิ้นปีนั่นเอง
- ภาษีมูลค่าเพิ่ม (Value Added Tax) หรือที่เราคุ้นชินกับคำว่า VAT หากนึกภาพไม่ออก ให้เราลองนึกถึงใบเสร็จเวลาไปเติมน้ำมัน หรือใบเสร็จจากร้านอาหารตามห้าง เราจะเห็นว่าในใบเสร็จมีบรรทัดหนึ่งที่เขียนว่า VAT ยอดนี้เป็นยอดที่ผู้ออกใบเสร็จต้องทำการยื่นให้สรรพากรทุกเดือน
VAT คือ ภาษีที่จากมูลค่าสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายในประเทศ ยอด VAT ที่ผู้ขายของออนไลน์อย่างเราต้องจ่ายคิดมาจากสองส่วน ส่วนแรกคือ VAT ขาย คิดจาก 7% ของยอดขาย ส่วนที่สองคือ VAT ซื้อ คิดจาก 7% จาก VAT ค่าใช้จ่าย (ค่าใช้จ่ายที่มีใบกำกับภาษี) นำ VAT ขาย ลบ VAT ซื้อ เหลือเท่าไหร่นั่นคือยอดที่ต้อยจ่ายให้รัฐ
หากเราเพิ่งเริ่มขายของออนไลน์ ภาษีก้อนนี้อาจเป็นภาษีที่เราไม่ค่อยคุ้นสักเท่าไหร่ เพราะภาษีนี้เป็นภาษีที่เก็บจากผู้ขายสินค้าหรือบริการที่มียอดขายต่อปีถึงเกณฑ์ 1.8 ล้านบาท แต่หากเรามียอดขายถึงเกณฑ์และต้องทำการจด VAT นี่จะเป็นเหมือนต้นทุนการขายของออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นมา
หากดูเผิน ๆ ภาษีสองก้อนนี้อาจเหมือนกัน เพราะ คิดจากยอดขายทั้งคู่ แต่จริง ๆ แล้วต่างกัน เพราะภาษีเงินได้เป็นภาษีที่ทุกคนต้องจ่าย ส่วน VAT นั้นเป็นภาษีที่คน (หรือนิติบุคคล) ที่ทำการค้าและมีรายได้มากกว่า 1.8 ล้านบาทต้องจ่ายเพิ่มอีกต่อหนึ่ง
ยอดขายถึงเท่าไหร่ต้องจด VAT ?
เกณฑ์ต้องจด VAT คือ เราต้องทำการจดหากยอดขายรายปีของเราถึง 1.8 ล้านบาท โดยวันที่นับจะทำการนับจากยอดขายวันแรกของปีจนถึงวันสุดท้ายของปี หากเรามียอดขายรายปีถึง 1.8 ล้านบาทเมื่อไหร่เราก็ต้องไปทำการจด VAT แต่หากสิ้นปีแล้วยอดขายไม่ถึง 1.8 ล้านบาท ปีหน้าจะเริ่มนับ 0 ใหม่
แต่ หากปีนี้เรายอดถึง 1.8 ล้านบาทและจด VAT ไปแล้ว เริ่มต้นปีหน้าแม้ยอดขายนับตั้งแต่ต้นปียังไม่ถึง 1.8 ล้านบาท เราก็ยังคงต้องทำการยื่นชำระ VAT ทุก ๆ เดือน
วิธีจัดการภาษีและหลีกเลี่ยงค่าปรับ
ภาษีที่เกี่ยวข้องกับการขายของออนไลน์มีสองก้อน คือ ภาษีเงินได้ และภาษีมูลค่าเพิ่ม
ภาษีเงินได้น่าจะเป็นภาษีที่เราต้องทำการยื่นทุก ๆ สิ้นปี โดยเกณฑ์การคำนวณภาษีเงินได้ของบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลมีความแตกต่างกัน
ภาษีมูลค่าเพิ่ม คือ ภาษีที่ผู้ขายต้องทำการชำระทุกเดือนหากยอดขายรายปีถึง 1.8 ล้านบาท ฉนั้น หากยอดขายยังไม่ถึง 1.8 ล้านบาท ผู้ขายอย่างเราต้องทำการเช็คเรื่อย ๆ นะครับ ว่ายอดขายรวมรายปีของเราถึงยอดต้องจด VAT หรือยัง เพราะหากยอดถึงแล้วและยังไม่จด อาจต้องจ่ายย้อนหลังและโดนค่าปรับเพิ่มจากสรรพากรด้วยหากมีการตรวจเจอ
ส่วนใครที่ยอดถึงเกณฑ์แล้วก็จะต้องทำการคำนวณและยื่นชำระ VAT ให้สรรพากรทุก ๆ เดือน แม้ว่าหลักการการคำนวณจะดูไม่ยาก แต่รายการคำสั่งซื้อของผู้ขายที่ยอดถึง 1.8 ล้านบาทน่าจะมีจำนวนไม่น้อย ประกอบกับโครงสร้างไฟล์ยอดขายที่ต้องใช้คำนวณจาก Shopee Lazada TikTok มีรูปแบบที่ต้างกัน โค้ดส่วนลดแต่ละช่วงเวลาก็ไม่เหมือนกัน อาจทำให้ผู้ขายอย่างเราต้องปวดหัวกับการคำนวณอยู่พอสมควร
ผมเลยทำโปรแกรมคำนวณ VAT ให้เพื่อนผู้ขายมาลองใช้กันดูครับ กดดูวิธีการใช้ได้ที่นี่ครับ
Leave a Reply